ค่ายวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม

สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช
โรงเรียนอำนาจเจริญ

วันที่ 25-27 เมษายน 2554

กลุ่มที่ 1

25 เมษามาบรรจบ     ได้พานพบกับสิ่งที่มุ่งหวัง
พร้อมทั้งผ่านประสบการณ์หลายร้อยพัน    แสนสุขสันต์ สนุก มันส์และหรรษา
พอรุ่งเช้าฟ้าสางฝนก็ตก     สายลมโบกสบัดปลิวพลิ้วไสว
เริ่มตกหนักแรงเข้า เราเร้าใจ    ลุกเต้นไซร้ร้องเพลงเป็นอาจิณ
พอกล่าวถึงพี่เลี้ยงแสนจะบ้า    ชอบสนุกเฮฮา และสุขสันต์
ทั้งหัวเราะและยิ้มแป้นกันทุกวัน    แต่น่ารักทั้งนั้นพี่เลี้ยงเรา
มีป่ารอบตัว รอบตัว รอบตัว     มีสัตว์รอบตา รอบตา รอบตา
โอ๊ยมาแล้วลันลา....สะแกราช สะแกราช     จะอนุรักษ์ป่าสะแกราชไหม??
จะอนุรักษ์ป่าสะแกราชไหม??    อนุรักษ์แล้วจะเป็นยังไง
รักษ์แล้วลันลา     รักษ์แล้วลันลา
พวกเราเฮฮานะรักป่าเท่าชีวิน..

กลุ่มที่  2

เมื่อเดินทางมาถึงสะแกราช    ช่างประหลาดน่าดูน่าลองของ
เดินลงรถมาถึงที่รับรอง    เล้วเมียงมองแลดูหมู่สกุณา
เมื่อพลบค่ำเข้าที่พักชัดอยากอาบ    แล้วกินลาบต้มก้อยเป็นอาหาร
ช่างสุขจริงไม่มีใครจะเทียมทาน    ทุกคนขานบอกว่าน่าอยู่จริง
ทั้งอากาศ อาหาร สำราญนัก    หากได้พักสัก 10 คืน ชื่นสุขสันต์
ลมก็เป็นเช่นแอร์คอนดิชั่น    ส่งความฝันบ้านพักสีมชมพู
ตื่นเช้ามาได้เดินป่าหาดูนก    สกปรกเหลือประทานทนกระมลหมอง
น้ำไม่อาบ หน้าไม่ล้าง ไม่อยากมอง    ช่างหม่นหมองน่ารังเกียจโสโครกจริง
เข้าป่านี้เสียใจไม่เห็นเห็ด    คงจะเสร็จกิ้งกือและหมู่หนอน
โดยเฉพาะเห็ดสมศรีอยากเหลียวหมอง    แต่ก็หมองเพราะไม่เห็นเป็นขวัญตา
แล้วเหลือบซ้ายเห็นปลวกเดินกันเป็นฝูง    แล้วเหลือบสูงเห็นเถาวัลย์มันย่องย้อย
เมื่อตอนกลับยิ่งมันหยดต๋องต๋อย    จะสะวอยด้วยบทเพลงบรรเลงใจ

กลุ่มที่  3

มาที่สะแกราช    สุขสำราญบานตะทัย
หมู่เฮาความคิดไกล    สุขใจในหมู่ใครเรา
เพชรเจิดจรัสเขา    พวกเรา ๆ บ้าได้ใจ
พอถึงวันเสียใจ นั่งร้องไห้ดังวันวาน
พวกเราสุขสำราญ ดังคำหวานท้วงทำนอง
พวกเราเป็นนักร้อง    ดั่งตะกอนคือกิ่งไผ่
นายนี้ไม่ใช่คนไทย เพราะในใจคือคนลาว
และนายอะตอมนั้น ชั่งข้มข้นและสงสาร
เพราะเขาน่าสำราญ    ใจเบิกบานกล่าวขานไกล

กลุ่มที่  4

สะแกราชนี้วิวดีและป่าสวย    พี่พี่ช่วยสอนการเดินป่าให้
พี่ทุกคนน่ารักและสดใส    เราทุกคนดีใจที่ได้มา
ตอนเช้ามาพี่ก็พาเราเดินป่า    เดินป่าไปฝนก็ตกลำบากหนา
พี่บอกว่าเสื้อกันฝนกำลังมา    ปรากฎว่ากว่าเสื้อมาเปียกหมดเลย
เสื้อกันฝนบางอันนั้นขาดล่ำ    แถมยังซ้ำเราตากฝนทนหนาวหงอย
ตอนฝนหยุดนั้นเราจะเฝ้าคอย    เดินต้อยต้อยหงอยเหงาหิวข้าวจัง
ฟ้ากับท้องก็ร้องแข่งกันดัง    หิวข้าวจังท้องก็ดัง จ๊อก จ๊อก
ความรู้สึกเวลานี้ที่อยากบอก    คือว่าคิดไม่ออกแล้วบ๊าย บ๊าย เอย