ค่ายวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม

สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช
โรงเรียนสตรีนนทบุรี รุ่นที่ 1

วันที่ 10-12 ธันวาคม 2552


กลุ่มที่ 1,2

สตรีนนทบุรีรุ่นที่ 1  ได้มาถึงสะแกราชวังน้ำเขียว
บนเส้นทางที่นั่งมาช่างคดเคี้ยว  ทางกี่เบี้ยวเลี้ยวรถหดหู่ใจ
พออยู่ไปก็รู้ว่ามันใช่   ในป่าไพรไกลกว้างน่าค้นหา
ต้องขอบคุณอาจารย์ที่พามา   เรานั้นหนาสุขีถ้วนหน้าเอย

 

กลุ่มที่ 3,4

สถานีศูนย์วิจัยสะแกราช   หลายเชื้อชาติต่างภาษาหาความรู้
ทั้งญี่ปุ่นจีนไทยและฮินดู   จู้ฮุกกรูสะแกราชโคราชไง
พื้นที่ดีพื้นที่กว้างใหญ่แท้ๆ   ล้วนมีแต่ต้นไม้ต้นใหญ่ ๆ
ทั้งสีเขียวสีเหลืองเคล้ากันไป   สัตว์น้อยใหญ่ต่างภูมิใจสะแกราช

 

กลุ่มที่ 7,8

มองดาวน้อยล่องลอยอยู่บนฟ้า   สุขหนักหนาอยู่ในป่ากันคืนนี้
ปิ้งข้าวโพดกินข้าวจี่อร่อยดี   แมลงมีคอยร่ำร้องให้ชื่นใจ
มาเดดินป่าไม่เหนื่อยไม่เมื่อยบ่น   แต่อดทนสะแกราชช่างสดใส
ดูนั่นสิไก่ฟ้าพญาลอไง!   เป็นของไทยพวกเราต่างชื่นชม
ชมนกในพงไพรที่ไพศาล   นกแขกเต้าขับขานมิขื่นขม
จู๋จี๋หยอกล้อเพลินอารมณ์   แต่เท้าเรามันระบมเพราะชมนาน
อาและพี่ช่างใจดีเป็นยิ่งนัก   แสนน่ารักเกินกว่าจะกล่าวขาน
ทั้งดูและจนวันนี้และเมื่อวาน   พรุ่งนี้กลับถึงบ้านคงคิดถึงเอย

ประพันธ์โดย
สุดสายป่าน มะขามเปียกและเพื่อนนักเรียน ม.5/11 สตรีนนทบุรี

 

กลุ่มที่ 5,6

Story of Sakaerat
สะแกราชเป็นค่ายวิทย์วิจัยป่า   สัตว์นานาหลากชนิดร่วมอาศัย
เย็นดูไก่ดึกดูดาวเข้าพงไพร   ยังติดใจไก่ฟ้าพญาลอ
ตื่นแต่เช้าไปดูนกบินผงผัน   หลากสีสันเจ้านกน้อยเราคอยหนอ
อุ๊ยเจอแล้วเราจบแค่นี้พอ   ถ้างั้นก็เดินกลับไปกินข้าวกัน
นั่งนั่งอยู่นึกถึงข้าวเกรียบว่าว   ที่เราเฝ้านอนดูดาวเมื่อคืนนั้น
โอ้ดวงดาวเจิดจรัสสวยเหมือนฉัน   เพื่อนพากันอิจฉาน้ำตาไหล
ว๊ายดาวตกโอ๊ะโอลืมอวยพร   มัวแต่นอนกินข้าวจี่ที่มันไหม้
มีแมงมุมดวงตาที่สดใส   อยู่นั่นไงส่องไฟก็วิ้งวิ้ง
ตอนดูดาวเจอแฟนคลับกลุ่มดงบัง   นักร้องดังเกาหลีที่ฉันปิ๊ง
แคสสิโอเปียรูปตัวเอ็มเห็นแล้วนิ่ง   แสนงงจริงที่ปักิ่งมีบ้างไหม
เห็นคันไถดาวเต่าและนายพราน   ดูนานาเมื่อยคอขอหมอนหน่อย
สอนดูดาวเก็บความรู้ทีละน้อย   ฉันเฝ้าคอยดูดาวอีกสักครั้ง
มาวันนี้ตื่นเช้าไปเดินป่า   อาบอกว่าเป็นป่าดิบป่าเต็งรัง
ป่าดิบแล้งเป็นป่าที่มืดจัง   แต่เต็งรังนั้นสว่างลมพัดดี
ออกมาจากป่ามากินไก่ย่างโคราช   หมี่โคราชของชื่อดังที่นี่มี
ส้มตำไทยปูปลาหล้าอร่อยจังซี่   แซบอีหลีของดีตักอีกรอบ
งานพื้นบ้านมัดถักและทอผ้า   พวกป้าป้ามาสอนเราโคตะระชอบ
ยายทอเสื่อเคี้ยวหมากดังกรอบ ๆ   เผื่อจะออกข้อสอบกลางภาคเอย
The great “Poem” of 5/9  ประพันธ์โดย ศิลป์บันเทิง

 

กลุ่มที่ 9,10

เดินทางมาสะแกราชด้วยใจมั่น   สุดจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว
กลิ่นขี้วัวโชยมาและโชยไป   ทนไม่ไหวหนูจะอวักขอกินเลย์
พอถึงปุ๊บรู้ปั๊บธรรมชาติ   สิ่งที่ขาดคือสัญญาณของมือถือ
ไม่เป็นไรสิ่งที่ได้นั้นก็คือ   ใช้สองมือถือกล้องส่องทางไกล
ส่องทำไมรู้ไหมส่องทำไม   ก็ส่องไปดูนกกระดกหาง
นอนเกือกกลิ้งกลิ้งเกือกไปตามทาง   แล้วหนูวางกล้องไปถ่ายรูปกัน
ตกกลางคืนปิ้งข้าวเหนียวและข้าวจี่   ประหลาดดีดูผีเสื้อแมงวันป่า
แล้วอีกอย่างดูดาวช่างวาววับ   อยากจับไว้จะได้เป็น The star
เช้าวันใหม่ดูไก่ฟ้าพญาลอ   7 โมงกลับมาขอข้าวป้ากิน
แล้วก็เดินออกไปสู่พงไพร   เดินไม่หลงเพราะมีลุงสมัยนำ
ให้หนูกินทุกอย่างที่ขวางหน้า   แต่มันคือสมุนไพรเราต้องกิน
ใกล้ถึงแล้วมื้อเที่ยงที่กลางป่า   มีคุณป้าตำส้มตำเอาไว้ให้
ทั้งไก่ย่างหมี๋โคราชกินเข้าไป   เป็นหมูไง! ซวยเลยอิสลาม

 

กลุ่มที่ 11,12

10 ธันวา 52 สะแกราช   ช่างเกินคาดโอ้โหอะไรนี่
ขนมจีนแสนอร่อยเค้าก็มี   โคตรโชคดีที่เรานั้นได้กิน
โอ้โหนั้นนกมีอยู่มากมาย   กล้องส่องทางไกลส่องอย่างไงก็ไม่ชิน
ทำอย่างไรตัวเราถึงจะชิน   ช่างถวิลร่ำร้องหาบ้านของเรา
เมื่อตกดึกเข้าห้องหอประชุม   สุดแสนกลุ้มกลิ่นเท้าทำเราเศร้า
จำทนเอาทีนี่มันกลิ่นตัวเอง   จง ครื้นเครงสุขสันต์กันดีกว่า
มองดูดาวพร่างพราวสกาวแสง ช่างรุนแรงเต็มตาดีจริงหนา
หากท่าว่ามีดาวแดงบินผ่านมา   จากฟากฟ้าฝั่งฟากมวลดารา
บรรยากาศล่วงเลยวันที่ 2   ตื่นเช้ามามัวหมองหนาวหนักหนา
อาหารเช้าที่เราเผชิญมา   คือข้าวผัดไข่ดาวซุปบรรลัย
พอล่วงเลยเข้าไปดูไก่ฟ้า   ไก่ฟ้าจ๋ารอฉันด้วยเข้าใจไหม
หากไม่รอพวกฉันนั้นแล้วไซร้   จะพุงตรงด้วยฤทัยจับหักคอ
ต่อกันด้วยเดินป่าหนทางไกล   เหนื่อยยากใจฉันอยากร้องมอมอ
แต่เผอิญว่าฉันนั้นไม่ท้อ   จึงเดินต่อเพื่อที่จะหาของกิน
และแล้วก็ถึงที่จุดนัดหมาย   ล้วนกลับกลายเหล่าหลากอาหารถิ่น
ส้มตำเอ๋ยไก่ย่างล้วนอร่อยลิ้น   เป็นแดนดินถิ่นอีสานโคราชเอย